วันที่ 24 พ.ค. 2553 นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานบริหารเครือโอเรียนเต็ล มาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทย ภายหลังผ่านพ้นช่วงวิกฤตรุนแรงที่มีการจลาจลเผาบ้าน-เผาเมืองเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ยุทธการกบฏเสื้อแดง ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินและจิตใจของคนไทย ทำให้กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยหมอกควันที่กระจายจากการเผายาง-เผาตึก และความรุนแรง ที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่มีความปลอดภัยในชีวิต เห็นแล้วก็น่าเศร้า ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ คนไทยทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
นาย เอกยุทธ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามสื่อสารออกมากับประชาชน แต่เป็นลักษณะสื่อสารทางเดียว เป็นการนำเสนอในสิ่งที่รัฐบาลอยากให้ประชาชนรับรู้ แต่ไม่ใช่ข่าวสารในสิ่งที่ประชาชนอยากรับรู้ ถือเป็นเรื่องน่ากลัวมาก มีการสร้างข่าว-มีการปล่อยข่าวกันมาก ให้คนในซีกรัฐบาลมานั่งด่าฝ่ายตรงข้าม เพราะอย่าลืมว่า เสื้อแดงหากมองในมุมด้านมวลชน เค้าถือว่า เค้าชนะ รอวันไฟปะทุอีกรอบ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลกลับลอยหน้าลอยตา คิดว่า ศึกหนนี้ตัวเองชนะ โดยไม่ได้มองถึงภาพใหญ่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า
นายเอกยุทธ กล่าวต่อว่า หากดูจากเม็ดเงินที่บอกว่า มีการใช้จ่ายในการชุมนุมครั้งนี้ หลายหมื่นล้านบาท ก็เห็นชัดว่า ผู้ที่กล้าลงทุนเงินขนาดนี้ เค้ามีเป้าหมายอย่างไร เค้ากล้าลงทุนแบบนี้ โดยมีมวลชนเป็นแบ็กอัพ เค้าก็ต้องกล้าลงทุนสู้ต่อไป สัญญาณอันหนึ่งที่คิดว่าไม่น่าจะจบ และจะเกิดไฟปะทุในเร็ววันนี้คือ
1.แกนนำเสื้อแดง มีหมายจับจากคดีนี้ว่าเป็นผู้ก่อการร้าย แต่หลายคนไม่ได้มีแค่คดีเดียว ยังมีหมายจับในคดีอื่นอีกมาก แต่ทำไมไม่ใช้หมายจับคดีเหล่านั้น เพื่อนำเข้าคุกไปเลย ทำไมต้องให้ไปคุมขังที่ค่ายนเรศวร ซึ่งมีการดูแลอย่างดี ผิดวิสัยของผู้ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ก่อการร้าย ทำร้ายบ้านทำลายเมือง
2.เราเห็นการเผาบ้านเผาเมือง พบอาวุธสงครามเยอะแยะ แต่ไม่มีใครเข้าไปจัดการตามกฎหมายกับตัวบุคคลอย่างชัดเจนได้เลย ที่สำคัญ ไม่มีใครตอบคำถามได้ว่า อาวุธเหล่านี้ เข้ามาได้อย่างไร ทำไมด่านสกัดต่างๆ ถึงไม่มีปัญหา หรือไม่มีการข่าวที่รับรู้เลยหรือ
3.ดูปฏิกิริยาจากต่าง ประเทศให้ดี โดยเฉพาะฝรั่งเศส ที่วันนี้ทักษิณ (ชินวัตร) ไปโผล่ ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ธรรมดา มีนัยยะสำคัญด้านต่างประเทศ เพราะการไปโผล่ที่ฝรั่งเศส ขณะที่เกิดเหตุรุนแรงในเมืองไทย มีการฆ่ากัน โดยที่รัฐบาลฝรั่งเศส ไม่ได้ว่าอะไร ก็ต้องไม่ลืมว่า ฝรั่งเศสมีการปฏิวัติประชาชนในอดีต ผู้คนลุกขึ้นมาต่อสู้ล้มล้างสถาบันกษัตริย์จนสำเร็จมาแล้ว พรรคไทยรักไทยในอดีตก็เลือกก่อตั้งพรรคในวันปฏิวัติฝรั่งเศส วันนี้มาโผล่ด้วยความยินยอมของรัฐบาล จึงเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา และมองข้ามไม่ได้
“ทักษิณพยายามส่งสัญญาณด้านต่างประเทศมาตลอด จากเดิมไปโผล่ที่รัสเซีย ต่อด้วยฝรั่งเศส ที่เป็นมหาอำนาจโลก เท่าที่ผมตรวจสอบ เป้าหมายต่อไปของทักษิณ คือการจุดไฟปะทุอีกครั้งในเดือนก.ค.นี้ โดยเฉพาะให้ระวังวันที่ 14 ก.ค. ที่เป็นวันชาติของฝรั่งเศส และเคยเป็นวันก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมาแล้ว ซึ่งอาจมีการส่งสัญญาณสำคัญๆ ออกมาอีกรอบ เพื่อก่อกวนประเทศอีกครั้ง เมื่อเป็นเช่นนี้ รัฐบาลควรมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และมองหาหนทางแก้ไขไว้ล่วงหน้า เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลมีการประสานงานกับต่างประเทศอ่อนมาก ไม่มีล็อบบี้ยิสต์ที่ดี แทนที่จะอธิบายให้ต่างประเทศรับรู้ถึงความอันตราย แต่กลับทำไม่ได้”นาย เอกยุทธกล่าว
นายเอกยุทธ กล่าวด้วยว่ ขณะที่บ้านเราเกิดเหตุเผาบ้านเผาเมือง จากคนในชาติขัดแย้งกันเอง แต่ปรากฏว่า รอบบ้านเรา อินโดนีเซีย-สิงค์โปร์-ฮ่องกง-มาเลเซีย นั่งตักตวงผลประโยชน์สบายใจ สิงค์โปร์เพิ่งมีบ่อนกาสิโน ราคาโรงแรมขึ้นหลาย% คนที่หายไปจากการท่องเที่ยวของเรา เงินหายไปหลายแสนล้าน ก็ไปตกอยู่กับบ้านใกล้เรือนเคียงเหล่านี้
“ผม พูดมาเสมอว่า เมื่อเราไม่จัดการกับตัวปัญหา หน่วยความมั่นคงถ้าคิดว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ สังคมไทยก็คงยังไม่สงบอย่างแท้จริง”นายเอกยุทธกล่าวและว่า การรักใคร-ชอบใคร โดยหลับหูหลับตาไม่ฟังเหตุผล ก็จะมีแต่ความโกรธแค้น คนกรุงฯ คนมีความรู้ ด่าเสื้อแดงว่าโง่-บัดซบ หลงเชื่อคน แต่คนที่หลงเชื่อรัฐบาลโดยปราศจากเหตุผลก็ไม่ต่างจากคนเหล่านี้ที่ตัวเองด่า ว่า
ที่มา :: http://akeyuth.name/mid2009/analysis/272-2010-05-24-08-09-11
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น