หลังจากที่แก้ว 2 ดวง คือ มวลชน และกองกำลังติดอาวุธ ล้มเหลวในสงครามของ นช.ทักษิณ ชินวัตร เพือเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมือง ก็เหลือเพียงแก้วดวงสุดท้ายคือ พรรคเพื่อไทย ที่หวนกลับมาใช้เวทีรัฐสภา สู้กับนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันนี้และวันพรุ่งนี้
แม้ว่า จะมีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย อีก 4 คน นอกจากนายกรัฐมนตรี และประเด็นการอภิปราย ไม่ได้มีแต่เรื่อง การสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์แล้ว ยังมีเรื่องการทุจริต คอร์รัปชั่น ประสิทธิภาพในการบริหารงาน แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า เรื่อง การสลายการชุมนุม จะถูกยกมาเป็นไฮไลท์ ในการโจมตีรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องที่มีผู้เสียชีวิต 86 ศพ จากเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน ถึง วันที่ 19 พฤษภาคม ในจำนวนนี้ เป็น 6 ศพในวัดปทุมวนาราม ที่จะถูกเน้นเป็นพิเศษในเรื่อง ใครฆ่า
ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะหมดสมัยประชุมสภาสามัญ พรรคเพื่อไทย ทำท่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล ในเรื่องการบริหาราชการแผ่นดินมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ นช. ทักษิณ เชื่อว่า แก้ว 2 ดวงคือ มวลชน และกองกำลังติดอาวุธ จะสามารถกดดันนายอภิสิทธิ์ ต้องยุบสภา ในทันที หรือลาออก เพราะเกิดเหตุการณ์การใช้ความรุนแรง จึงสั่งให้พรรคเพื่อไทย ยับยั้งการยื่นอภิปรายเอาไว้ก่อน จากเดิม ที่กำหนดจะมีการอภิปรายในช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤษภาคม เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว รัฐบาลจะยุบสภา ไม่ได้ ซึ่งจะขัดแย้งกับ แนวทางการใช้มวลชนกดดันให้ยุบสภาในทันที
แต่เมื่อแผนการล้มล้างรัฐบาล โดยใช้มวลชนและความรุนแรงไม่เป็นผลสำเร็จ ไม่สามารถสร้างกระแสต่อต้านนายอภิสิทธิ์ ที่ใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม ให้เกิดขึ้นทั้งในประเทศ และในทางสากลได้ กลับกลายเป็นว่า รัฐบาลและ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ( ศอฉ.) ได้รับการชื่นชม ในการใช้มาตราการ กระชับวงล้อม ขอคืนพื้นที่ ในขณะที่ นช. ทักษิณ กลับเป็นฝ่ายต้องตั้งรับ แก้ตัวกับสื่อต่างประเทศเป็นพัลวันกับข้อหาผู้ก่อการร้าย แก้วดวงที่ 3 จึงถูกสั่งให้รับไม้ต่อ ใช้สภาฯ เป็นเวทีสร้างกระแสว่า รัฐบาลฆ่าประชาชน ด้วยการขอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในช่วงที่มีการเปิดประชุม สภาฯสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2554
เมื่อ พรรคเพี่อไทยหยิบยื่นนาทีทอง เปิดเวทีให้นายอภิสิทธิ์เช่นนี้แล้ว มีหรือที่นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่รีบคว้าเอาไว้ เพราะนี่คือ โอกาสที่ดีที่สุด ที่จะตีเหล็กที่กำลังร้อน ขบวนการเสื้อแดงกำลังพ่ายแพ้ทั้งกระบวน กระแสสังคมไม่เอาด้วย กับ การชุมนุมที่ใช้ความรุนแรง และไม่สนใจว่า จะมีคนตายกี่คน ตายเพราอะไร ในขณะที่ พรรคเพื่อไทย ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับ การชุมนุม ที่ถูกใช้เป็นเกราะกำบัง กองกำลังติดอาวุธที่ใช้ความรุนแรง ในการเข่นฆ่า และเผาบ้านเผาเมือง ทั้งจากการที่แกนนำผู้ชุมนุม คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็น สส. พรรคเพื่อไทย และจากการที่ สส. พรรคเพื่อไทยมีบทบาทในการขนคนมาเติมในที่ชุมนุมตลอดเวลา หลายๆคนขึ้นเวทีปลุกเร้าผู้ชุมนุม
ในสภาพที่บอบช้ำสุดกำลัง ถึงขนาดต้องปิดพรรคหนีมวลชนคนเสื้อแดง ในวันที่ 19 พฤษภาคม แต่ต้องฝืนใจลากสังขารขึ้นเวทีอภิปราย มีหรือที่นายอภิสิทธิ จะไม่รีบรับคำท้า ยอมให้พรรคเพื่อไทยเปิดอภิปราย ด้วยความเต็มใจ เพราะมั่นใจว่า ผู้อภิปรายของพรรคเพื่อไทย ที่มี ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง เป็นหัวหน้าทีม และมีนายจตุพร เป็นผู้อภิปรายในประเด็นการสลายการชุมนุม จะไม่มีข้อมูลใหม่ๆใดๆ ที่รัฐบาลไม่สามารถชี้แจงได้ จะมีก็แต่ลีลา คำพูดที่ดุดัน เสียดสี และการลักไก่ นำคลิปตัดต่อมาเปิด หลอกผู้ชทผ่านทีสีทางบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ พรรคประชาธิปัตย์รับมือได้อยุ่แล้ว
ภาพที่ประชาชนจะได้เห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ จะไม่ใช่ภาพที่รัฐบาลถูกเปิดโปงว่าใช้ความรุนแรง ใช้กำลังทหารติดอาวุธครบมือ สังหารประชาชน อย่างที่พรรคเพื่อไทยต้อการ แต่จะเป็นภาพที่นายจตุพร และ สส. พรรคเพื่อไทย ถูกสส. พรรคประชาธิปัตย์ ถามหาความรับผิดชอบ ในการพามวลชนคนเสื้อแดงไปตาย และจะเป็นภาพการทำงาน ประสานกันอย่างเป็นขบวนการที่มีการวางแผนกันมาล่วงหน้า ของ แก้ว3 ดวง คือ มวลชน พรรค และกองกำลังติดอาวุธ ที่จะถูกรัฐบาลแฉกลางสภาฯ
หาก พรรคเพื่อไทย ไม่รีบยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ แต่ใช้วิธีแถลงข่าว ปล่อยข่าวว่า มีคนตาย มีการซ่อนศพ มีการสังหารหมุ่ในวัดปทุมวนารามไปเรื่อยๆ รัฐบาลก็จะต้องคอยตามแก้ข่าว แต่การเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้นายอภิสิทธิ์ มีเวทีในการแถลงข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการไปยังประชาชนทั้งประเทศ และยังอ้างได้ว่า ได้แสดงความรับผิดชอบ ด้วยการมาชี้แจงในสภาฯอย่างเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว
สงสารก็แต่ บรรดาผู้สูญเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง ตายไปแล้ว ไม่มีใครให้ความสนใจ นอกจากพ่อแม่พี่น้อง ลูกเมีย ยังถูกลากไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองในสภาฯ อีก
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000074530
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น