วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

บนทางที่เลือกของ "เสธ.แดง" / เปลว สีเงิน 14 พฤษภาคม 2553

ขอส่งใจช่วย "เสธ.แดง" และคิดว่า "แดงมหิงสา" บรรดาฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น จตุพร-ณัฐวุฒิ-อริสมันต์- เมื่อทราบข่าวเสธ.แดงมีอันเป็นไปเช่นนี้ คงเกิดอาการ "ปากกล้า-ขาสั่น-กระบาลเสียว" ไปตามๆ กัน ก็อยากให้ตั้งสติ แล้วเข้าตู้คอนเทนเนอร์ปรึกษากันเถอะ "วันนี้-๑๔ พฤษภา วันอมาวสี "จันทร์ดับ" ตอนเที่ยง จนถึงบ่าย ๓ ช่วงนี้เท่านั้นที่เป็น "นาทีทอง" ในการเจรจา จะเอายังไงรีบไปตกลงกับ ศอฉ.เขาเสีย ถ้าพ้นจากเวลานี้ไป ก็เกรงว่า...กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย แล้วจะเสียใจกันไปเปล่าๆ!

จาก "สนธิ ลิ้มทองกุล" แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ "สีเหลือง" ถูกประกบยิงหัวด้วยอาวุธสงครามสาหัส ที่หน้าวัดเอี่ยมวรนุช บางขุนพรหม เมื่อ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๒ มาเมื่อหัวค่ำวานนี้ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓ "พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล" หรือเสธ.แดง แกนนำฮาร์ดคอร์กลุ่มกบฏทักษิณ "สีแดง" ก็ถูกกระสุนลึกลับเจาะหัวที่ย่านศาลาแดง ถนนพระราม ๔ ดังที่ท่านทราบจากข่าวกันแล้ว เพราะเหตุเกิดตั้งแต่ตอนใกล้ๆ ๑ ทุ่มเมื่อคืน

ก็ ขอให้คุณงามความดี กรรมดีต่อชาติบ้านเมือง และสังคมชาติที่เสธ.แดงกระทำมาทั้งหมด จงเป็นปัจจัยบารมี คุ้มครองรักษาเสธ.แดงให้มีชีวิตรอดปลอดภัย และเกิด "สัมมาสติ" ในเส้นทางชีวิตที่เหลือต่อไปด้วยเถิด

ครับ...ดาวศุกร์เคลื่อนจาก "เรือนเกษตร" ตัวเองตั้งแต่วันเสาร์ที่จะถึงนี้ เห็นที "สีแดง" ยากจะเจิดจ้าเสียแล้ว อะไรที่แดงๆ ดูจะไม่ถูกโฉลกกับพวกกบฏทักษิณ ก็ดูซี...
- เสื้อแดง
- ศาลาแดง
- เสธ.แดง
ก็จบลงที่ "เลือดสาดแดง" ไปทั้งตัว เห็นมั้ย...เป็นความลงตัวของ "แดง" ที่ไม่เป็นมงคลเลย ซึ่งก็ไม่ทราบว่ากระสุนนั้นมาจากไหน พวกไหน พวกแดงเทียม หรือพวกก่อการร้ายที่แฝงตัวเป็นมือที่สามเป็นคนยิงกันแน่ เพราะที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่กลุ่มกบฏแดงยึดครองอยู่ โดยนักรบของเสธ.คุ้มกันแน่นหนา

แล้วใครล่ะ...จะแปลกปลอมเข้าถึงตัวเสธ. แดง อันเป็น "ไข่แดง" ที่ล้อมรอบอยู่ด้วยไข่ขาวคือการ์ดของเขาขนาดนั้น?

ฉะนั้น ใครก็อย่าเพิ่งคาดเดากันไปเปะปะเลยครับ รอการตรวจสถานที่เกิดเหตุ และการสืบสวน-สอบสวนของเจ้าหน้าที่ก่อน คิดว่าไม่น่ายาก เพราะเป็นช่วงหัวค่ำ มีคนเห็นเหตุการณ์เยอะแยะ ต้องมีซักคนหรอกน่า ที่พอจะให้เค้าเงื่อนเกี่ยวกับ "มือสังหาร" คนนั้นได้!

เหตุเกิดทุ่ม กว่า แต่จน ๓ ทุ่ม ได้ข่าวว่าบรรดาแกนนำฮาร์ดคอร์ทั้งหลายไม่มีใครขึ้นเวที หลบไปจับกลุ่มปราศรัยกันเองอยู่หลังเวทีคร่ำเครียดจนเกือบ ๔ ทุ่มถึง "แต่งหน้าข่าว" เรื่องเสธ.แดงถูกยิงไปบอกผู้ชุมนุม
"กลับใจคือฝากฝั่ง" ยังทันนะ...มิตรทั้งหลาย-สหายทั้งหลาย ตั้งสติให้ดี อย่าให้ ความโกรธ-ความกลัว-ความอาฆาต และมิจฉาทิฐิ เป็นตัวนำสติเลย

มนุษย์ทุกคน หลงผิด-คิดพลาดกันได้ ไม่แปลก แต่การกลับใจ-ได้สติ อย่างนี้สิประเสริฐ ถ้าเช้าวันนี้ยังอยู่-ยังยึดเวทีราชประสงค์เป็นคอกคูประตูค่ายอยู่ ด้วยความปรารถนาดีจากผม ถ้ารักพี่น้องชาวบ้านที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่ตรงหน้าเวทีมากกว่า "รักตัวเอง" จริง ก็บอกเขาว่า

"สลายการชุมนุม" แยกย้ายกลับบ้านกันไปเถอะ!


ส่วน พวกท่าน บรรดาแกนนำทั้งหลาย ถ้ากองทัพเขาเอาจริงอย่างนี้ อย่าไปสู้เลยครับ ยังมีเวลาตามที่ผมบอก รีบไปเจรจาตกลงกับ ศอฉ.เขาเสีย พวกท่านต้องเสียสละให้บรรดาชาวบ้านที่เขาเสียสละเพื่อพวกท่านมา ๒ เดือนเต็มได้เห็นบ้าง

คนทั่วไป รวมทั้งผู้ชุมนุมที่เป็นไข่ขาวให้พวกท่าน ส่วนใหญ่ก็เข้าใจกันง่ายๆ ว่า ถ้าตำรวจ-ทหารใช้กำลังสลายม็อบ ก็จะมีชาวบ้านบาดเจ็บล้มตาย ดังนั้น ศอฉ.ต้องไม่กล้าบุก ไม่กล้ารุนแรงแน่นอน เพราะขืนทำ จะถูกสังคมทั้งในและนอกประเทศประณาม

นั่นคือความเข้าใจตามจินตนาการ ระดับชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง "ยุทธศาสตร์-ยุทธวิธี" ตามการทัพ ซึ่งทหารและตำรวจเขามีหลักสูตรศึกษา-ฝึกฝนด้านการสลายม็อบโดยเฉพาะอยู่แล้ว

พูด ง่ายๆ คือ ทหาร-ตำรวจ โดย ศอฉ.เขามีกลยุทธ์-กลวิธีสสลายม็อบ โดยไม่ต้องย่ำไปบนหัวผู้ร่วมชุมนุมให้บุบสลาย ขออย่างเดียว ถ้าตำรวจ-ทหารเอาจริง พวกเรา-ชาวบ้าน ทีทหารไม่ลุย ก็ด่าเขา พอเขาจะลุย...ก็ด่าเขาอีกนั้น ตั้งสติกันเสียบ้างเถอะ ให้มั่นใจด้วยเข้าใจว่า

ถ้าตำรวจ-ทหารเขาจะลุยจริงๆ นั้น เขามีวิธี "ถึงเป้าหมาย" โดยไม่ระคายเคืองชาวบ้านอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง!

ตอนนี้ รัฐบาลและ ศอฉ.ควรรีบประกาศให้ชาวบ้านที่มาชุมนุมได้ทราบว่าอะไร-เป็นอะไร มีโจรก่อการร้าย มีมือที่สาม เข้ามาแทรกแซงการชุมนุมด้วยบริสุทธิ์ใจของชาวบ้านแล้ว ดักยิงเสธ.แดง หวังปลุกปั่นให้เข้าใจว่า "ตำรวจ-ทหาร" ทำ ฉะนั้น ชาวบ้านอย่าหลงเป็นเครื่องมือให้ "ผู้ประสงค์ร้าย" อยู่เลย

ใครจะกลับ บ้าน-ก็กลับ มีรถรับส่งบริการพร้อม!

ผมจะบอกให้ท่านสังเกต คราวนี้ทหารเอาจริง ดูจากประกาศ ศอฉ.ตอนใกล้ ๓ ทุ่มเมื่อคืน จะเห็นว่า "เป็นครั้งแรก" นับแต่มีประกาศจาก ศอฉ.ออกมา คนลงชื่อท้ายประกาศนั้นชื่อ.....

"พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" ผบ.ทบ.!

เอา ล่ะ...มีอีเมล์ถึงผมฉบับ ผมคิดว่าน่าสนใจ จะเป็นเรื่องอะไรนั้นอยากให้อ่าน โดยเฉพาะท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ควรต้องอ่าน เพราะเขาสื่อความถึงท่านโดยตรง ดังนี้

เรียน คุณเปลว สีเงิน ที่เคารพ

ขอ อนุญาตส่งบทความความเห็นทางวิชาการของจิตแพทย์ท่านหนึ่ง ซึ่งอยากจะมีส่วนช่วยให้ข้อคิดกับรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลได้ทำการศึกษาจิตวิทยาม็อบให้มากกว่านี้ แต่ไม่อาจจะออกนามได้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัยต่อบุคลากรของโรงพยาบาล

หากคุณเปลว เห็นว่าเป็นประโยชน์ และอยากจะพูดคุยกับจิตแพทย์ท่านนี้เพิ่มเติม ดิฉันยินดีประสานงานให้ค่ะ เพราะจิตแพทย์เล่าว่าปกติแล้วในต่างประเทศ การตัดสินใจเรื่องยากๆ เหล่านี้ นักจิตวิทยาจะเข้าไปเกี่ยวข้องเสมอ แต่ประเทศไทยเรายังไม่เห็นประโยชน์ตรงนี้

ขอแสดงความนับถือ
พ.ศ.
รัฐบาล หลงทางไม่เข้าใจจิตวิทยาม็อบ

จิตแพทย์ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ให้ความเห็นเชิงวิชาการว่า รัฐบาลจะต้องทำความเข้าใจเรื่องจิตวิทยาม็อบมากกว่านี้ เห็นชัดแล้วว่าม็อบเป็นสิ่งที่ปรองดองไม่ได้ รัฐบาลไม่ควรยอมทำตามข้อเรียกร้องของม็อบ เพราะม็อบคือกลุ่มคนที่ไม่ยอมรับกติกาสังคม หรือกฎหมาย ใช้การรังแกข่มเหง และความรุนแรงกดดันเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังม็อบ ยิ่งผู้อยู่เบื้องหลังมีอำนาจหรือเงินทองเท่าไร ม็อบก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นตามกัน

การพยายามแยกคนบริสุทธิ์ออกจากม็อบของ รัฐบาลนั้น เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ เพราะตามจิตวิทยาม็อบแล้ว คนที่อยู่กับม็อบนั้นไม่มีความบริสุทธิ์เหลือแล้ว เพราะได้ละทิ้ง ยอมสละตัวตน มโนธรรม คุณธรรมทั้งหมด แล้วรับจิตวิญญาณของม็อบหรือฝูงชนแทนตัวเอง ตนเองพร้อมที่จะกระทำการใดๆ ก็ได้ตามคำสั่งจ่าฝูง จะมองตัวเองว่ามีอำนาจทำอะไรก็ได้ และรู้สึกว่าตัวเองนิรนาม ไม่รู้ใครเป็นใคร ไม่ต้องรับผิดชอบ จนเกิดอาการบ้าอำนาจ

คนธรรมดาที่อยู่ในฝูงม็อบนั้น เมื่อไรถ้าได้สติจะตกใจในสิ่งที่ตนเองได้กระทำไป เช่น การไปปิดโรงพยาบาลที่เป็นที่พึ่งของคนเจ็บป่วย ความจริงแล้วกลุ่มม็อบกำลังเริ่มได้สติ เริ่มสำนึกผิดบ้าง ก็เกือบจะสลายตัวแล้วหลังเรื่องโรงพยาบาลจุฬาฯ และต้องเผชิญหน้ากับพลังความดีของชาวจุฬาฯ

แต่การที่รัฐบาลกลับไปอ่อน ข้อยอมปรองดองกับม็อบ เป็นการแสดงความอ่อนแอ ยิ่งไปเพิ่มพลังให้กลุ่มม็อบให้กลับฮึกเหิม กลับไปหลงตนเองอีก โดยหลอกตนเองว่าดีและถูกต้อง รัฐบาลเองยังต้องยอมรับ ม็อบจึงกลับเรียกร้องมากขึ้น เรื่องการปรองดองใดๆ จะสำเร็จก็ต่อเมื่อกลุ่มม็อบพอใจผลประโยชน์ที่ได้เท่านั้น เห็นได้ว่า เมื่อรัฐบาลยอมอ่อนข้อ ยอมปรองดอง ม็อบก็มีข้ออ้างต่างๆ นานา ว่าบรรยากาศไม่ดี ไม่เจรจาแล้ว เป็นต้น การตัดสินใจของรัฐบาลที่เกิดขึ้นนี้กลับเป็นเชื้อเพลิงเติมให้ม็อบยิ่งแข็ง กร้าวขึ้นอีก
เพราะฉะนั้น รัฐบาลควรศึกษาเรื่องจิตวิทยาม็อบมากกว่านี้ ก่อนที่จะพาประเทศไทยเสียหายมากกว่านี้

ครับ...ช่วงนี้คงไม่มีอะไรจะคุย มากนัก นอกจากขอพรพระให้อภิบาล "เสธ.แดง" รอดปลอดภัย ขอพรให้บรรดาแกนนำ "กลับใจ-ได้สติ" และอยากบอกกับท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ว่า งานปรองดองก็ดี งานแก้ปัญหา "ม็อบคาเมือง" ก็ดี ท่านพยายามถึงที่สุดแล้ว ผมให้กำลังใจ อย่าวอกแวก อย่าไขว้เขว "ผู้ตาม" ทั้งโลกมีกว่า ๖,๐๐๐ ล้านคน แต่คนก้าวสู่ระดับ "ผู้นำชาติ" ได้นั้น มีแค่พัน-แค่หมื่นเท่านั้นเอง
คน..มัน อยู่ที่ใจ.....

แต่คนที่ "ใจถึง" เท่านั้นจึงจะเป็น "นายคน"!

http://www.thaipost.net/news/140510/22188

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น