วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ฮิวแมนไรท์ฯชี้ม็อบแดงชุมนุมก้าวล่วงหลักสากล รัฐมีอำนาจปราบ แต่ขอ2ฝ่ายหันเจรจา / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤษภาคม 2553

ฮิวแมนไรท์ วอทช์ ชี้การชุมนุมของก๊กแดงก้าวล่วงหลักสากลไปนานแล้ว รัฐบาลมีอำนาจปราบปรามได้ แต่ขอวิงวอนให้ทั้ง 2 ฝ่ายทบทวนท่าที หันมาเจรจาเพื่อลดความสูญเสียของประชาชน ด้าน ส.ส.ประชาธิปัตย์เรียกร้องประชาชนอดทนต่อวิกฤติการณ์ ระบุเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของ"ทักษิณ"

นายสุนัย ผาสุข ที่ปรึกษาองค์กร ฮิวแมนไรท์ วอทช์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่าการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ในขณะนี้ได้ก้าวล่วงหลักสากลไปนานแล้ว ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทำให้ภาครัฐมีอำนาจในการปราบปราม ได้

อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่าย ทบทวนท่าทีการเคลื่อนไหว ซึ่งยังพอมีโอกาสในการเจรจา หลังศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ออกแถลงการณ์การโอบล้อมกลุ่มผู้ชุมนุมไปแล้วก็ควรจะหยุดการรุกคืบ และชะลอการเคลื่อนไหว ซึ่งจะลดการสูญเสียของประชาชน เพื่อที่ทั้งสองฝ่ายจะได้มีเวลาทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นและนำไปสู่การเจรจา หาข้อยุติต่อไป

นายสุนัย กล่าวว่าสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือมาตรการคู่ขนาน ควบคู่กับการลดการปะทะ

นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ได้ให้สัมภาษณ์เรียกร้องประชาชนใช้ความอดทนและทำความเข้าใจ ต่อสถานการณ์ในระหว่างที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ปฏิบัติการกระชับพื้นที่ผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ แม้ว่า จะมีการสูญเสียเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากก็ตาม

นายอรรคพร กล่าวว่า การสูญเสียที่เกิดขึ้นเพราะกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อ ต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ออกปฏิบัติการหลังจากแฝงตัวปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมและพยายามจุดชนวนให้ เป็นสงครามกลางเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลและศอฉ.ได้คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และได้พยายามหลีกเลี่ยงด้วยการเสนอแผนปรองดองและถอยหลังจนถึงที่สุด แต่กลุ่มคนเสื้อแดงได้ปฏิเสธแผนปรองดองและเลือกต่อสู้ด้วยอาวุธซึ่งเป็น ยุทธศาสตร์หลักของกลุ่มคนเสื้อแดงมาตั้งแต่ต้นเช่นกัน

“ประชาชนต้องใช้ความอดทนอย่างยิ่งจนกว่าประเทศจะผ่านพ้นสถานการณ์นี้ ไป แต่ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะคนเสื้อแดงได้เลือกวิถีทางนี้เอง และเมื่อผ่านวิกฤติการณ์นี้ไปแล้ว บ้านเมืองก็จะเริ่มกลับสู่ความสงบสันติ เพราะนี่คือสงครามครั้งสุดท้ายของพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว” นายอรรถพรกล่าว

นายอรรถพร ยังตอบโต้พรรคเพื่อไทยที่กล่าวประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลและเรียกร้อง ให้นายกรัฐมนตรีลาออกว่า การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยเป็นเพียงแผนปฏิบัติการร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ในฐานะหนึ่งในแก้วสามประการ คือ มวลชน พรรคการเมือง และกองกำลังติดอาวุธ ถ้าพรรคเพื่อไทยปฏิเสธความรุนแรงก็ไม่ควรมีส่วนร่วมและระดมจัดจ้างมวลชนและ ปลุกปั่นมวลชนให้เข้าร่วมกับการชุมนุมตั้งแต่ต้น และวันนี้ พรรคเพื่อไทยมีฐานะเป็นเพียงขบวนการหนึ่งภายใต้การควบคุมของคนเสื้อแดง ไม่ได้เป็นพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแต่ประการใด “พรรคเพื่อไทยควรไปเรียกร้องพ.ต.ท.ทักษิณให้หยุดป่วนบ้านเมืองเสียที ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณหยุด ทุกอย่างก็จบ”นายอรรถพรกล่าว

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000067108

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น