สังเวยสงครามแดง! 4 วันไทยฆ่าไทยแล้ว 35 ศพ เจ็บอีกเฉียด 2 พัน บ่อนไก่ยังวิกฤติ เสียงปืน-ระเบิดดังระงม เสื้อแดงคลั่งขนรถบรรทุกน้ำมันขวางทหาร พร้อมวางยางรถนับพันเส้น ขู่เผารถไฟฟ้าใต้ดินหากสลายที่ราชประสงค์ หัวโจกอ้างขอเจรจาเพื่อยุติ ชุมนุม แต่สั่งตั้งเวทีทั่วกรุง เล็ง ม.รามคำแหงให้ "จาตุรนต์" นำทัพ รัฐแฉคนบงการตั้งเป้าฆ่าสื่อไทย-เทศและผู้ ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือหวังปั้นเรื่องเข้าสู่เวทีนานาชาติ "นพดล" รับ ทักษิณจ้างนักกฎหมายต่างชาติรวบรวมข้อมูลฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ
เหตุการณ์การปะทะระหว่างกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่ง ชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กับเจ้าหน้าที่ทหารที่เดินหน้ากระชับพื้นที่ ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น วันที่สี่ โดยเมื่อวันจันทร์ กระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า การปะทะในรอบวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2553 มีผู้บาดเจ็บรวม 249 ราย เสียชีวิต 35 ราย นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 116 ราย ในจำนวนนี้อาการหนักอยู่ในไอซียู 20 ราย
ทั้งนี้ สรุปเมื่อรวมกับเหตุการณ์วันที่ 12 มีนาคม 2553 วันแรกที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีผู้บาดเจ็บรวม 1,669 ราย เสียชีวิต 65 ราย นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 148 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในไอซียู 21 ราย ขณะนี้ทั้งผู้บาดเจ็บร้อยละ 91 รักษาหายและกลับบ้านแล้ว รวมค่ารักษาเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 00.30 น. เกิดเหตุคนร้ายได้ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่บริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานีจำนวนหลายลูก ทำให้กระจกหน้าโรงแรมแตกและหล่น ลงเกลื่อนถนน จากนั้นคนร้ายก็ได้ยิงระเบิดเอ็ม 79 ตกลงบริเวณตึกอื้อจือเหลียงอีก 3 ลูก
จากนั้นก็ได้มีกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากบริเวณชั้น 5 และชั้น 17 ของโรงแรมดุสิตธานี ทำให้แขกที่เข้าพักต่างวิ่งหนีตายกันวุ่นวาย แต่เจ้า หน้าที่ รปภ.ของทางโรงแรมสามารถควบคุมเพลิงไว้ไม่ให้ลุกลามไปได้ เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากคนร้ายใช้จรวดอาร์พีจี หรือลูกกระสุนเอ็ม 79 ขึ้นไปตกในจุดที่มีเชื้อเพลิงบริเวณชั้นดังกล่าว จึงทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมา
ต่อมาเวลา 01.00 น. มีเจ้าหน้าที่ทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โดยตรวจสอบก็พบว่า ทหารที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บนั้นเสียชีวิตแล้ว 1 นาย ทราบชื่อคือ จ.อ.อ.พงศ์ชลิต พิทยานนทกาญจน์ อายุ 51 ปี สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ส่วนทหารที่ได้รับบาดเจ็บอีกนาย คือ ร.อ.ต.อภิชาติ ซ้งย้ง อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่ใบหน้าเล็กน้อย ทั้ง 2 นายสังกัดหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ
ช่วงเช้าวันจันทร์บริเวณใต้ทางด่วนพระราม 4 ใกล้ชุมชนบ่อนไก่ ซึ่งถือว่าเป็นจุดล่อแหลมมากที่สุดยังคงมีการปะทะเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยผู้ ชุมนุมยังคงปักหลักอยู่บริเวณนี้ ผู้ชุมนุมยังคงนำยางรถยนต์ไปสุมไฟบริเวณกลางถนนพระราม 4 โดยใช้รถจักรยานยนต์ทยอยขนเข้าไป และมีการจุดประทัดยักษ์ไล่เครื่องบินที่บินอยู่บนท้องฟ้า พร้อมกันนั้นกลุ่ม ผู้ชุมนุมได้ระดมทำระเบิดเพลิง ระเบิดขวดเตรียมปาใส่เจ้าหน้าที่ทหาร
ต่อมาช่วงบ่ายบริเวณเดียวกัน กลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งมีกลุ่มคนสวมหมวกไอ้โม่ง รวมอยู่ด้วยพร้อมอาวุธ ได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหาร โดยมีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังระงมกินเวลานาน นานกว่าในช่วง 2 วันที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือกลุ่มควันดำที่บริเวณปากซอยงามดูพลียังคงปกคลุม อย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารมีการเสริมกำลังเพิ่มขึ้นบริเวณสนามมวยลุมพินี และที่สวนลุมไนท์บาซาร์ อีกทั้งยังมีการเสริมบังเกอร์ให้สูงขึ้นอีกด้วย
เสียงปืนยังดังระงมที่บ่อนไก่
น่าหวั่นวิตกไปกว่านั้น เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงได้เข็นรถน้ำมันจากปั๊ม ปตท.ริมถนนพระราม 4 ติดกับสวนลุมไนท์บาซาร์ ออกมาขวางถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าแยกคลองเตย เพื่อขวางไม่ให้ทหารสามารถยิงตอบโต้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ โดยยังไม่มีรายงานว่า ในรถดังกล่าวมีน้ำมันอยู่หรือไม่ พร้อมกันนั้นได้จุดไฟเผายางอยู่บนพื้นถนน ใกล้กับรถน้ำมันคันดังกล่าว และมีไฟลุกไหม้ มีควันดำพวยพุ่งออกมาจากท้ายรถน้ำมันจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณบ่อนไก่ ซอยสุวรรณสวัสดิ์ ปฏิบัติการของกลุ่มคนเสื้อแดงพบว่ามีวัยรุ่นประมาณ 20 คน และมีแกนนำ 5 คน เป็นคนกำหนดทิศทางวิธีการต่างๆ เช่น การสั่งให้เพิ่มยางเพื่อสุมไฟ ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันได้มีรถกระบะทะเบียนต่างจังหวัดขับบรรทุกยางรถยนต์ให้แก่ผู้ ชุมนุมตลอด ซึ่งคาดว่ามียางประมาณ 1,000 เส้นแล้ว
ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ก็ยังคงทยอยเดินทางออกนอกพื้นที่หลังจากเหตุปะทะกัน ของเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมยังไม่มีท่าทีคลี่คลาย แต่ก็มีบางส่วนไม่กล้าออก ไป เพราะหวั่นเกรงทรัพย์สินจะเสียหาย โดยถนนทั้งเส้นยังคงปิดตายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม
ด้านบริเวณแยกคลองเตย กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณนี้ได้ตั้งเวที โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมทยอยมามากขึ้น และมีการตั้งเต็นท์โดยประชาชนส่วนหนึ่งออกมาดูบรรยากาศบริเวณนี้บนสะพานลอย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการวางยางรถยนต์บริเวณประตูรถไฟฟ้าใต้ดินคลองเตย ซึ่งจากการ สอบถามกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นอาจมีการวางเพลิง หากเจ้าหน้าที่ทหารสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์
ส่วนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยมีเสียงปืนดังติดต่อกันนานประมาณ 5 นาที ซึ่งผู้ชุมนุมได้จุดประทัดยักษ์ บั้งไฟยิงใส่ตึกก่อสร้างละแวกใกล้เคียง เนื่องจากคาดว่าเป็นจุดที่ทหารซุ่มอยู่ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงจุดไฟเผายางรถยนต์ในบริเวณโดยรอบสะพานข้ามดินแดง เป็นระยะๆ เพื่อให้กลุ่มควันบดบังทัศนวิสัยการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร
บริเวณดังกล่าวมีผู้ชุมนุมเป็นชาย 2 คน ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่แขนขวาและลำตัว โดยถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลพระ ราม 9 ทั้งนี้ ช่วงเที่ยงวันบริเวณเดียวกันนี้ ประชาชนพบระเบิดตกอยู่ 1 ลูก ทำให้ชาวบ้านบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงหวาดผวาไม่กล้าออกมานอกบ้าน กลัวจะเกิดอันตราย ประกอบกับที่ผ่านมามีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้า หน้าที่ทหารตลอดเวลา
ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ด้านหน้าห้างสรรพสิน ค้าเซ็นเตอร์วัน ได้เริ่มขนโครงเหล็กและพื้นไม้เข้ามากองไว้บริเวณด้านหน้า ห้างแล้ว โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศที่จะตั้งเวทีปราศรัยถาวรขึ้นที่ อนุสาวรีย์ชัยฯ
มีความช่วยเหลือจากกรุงเทพมหานครสำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจาก เหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งประชาชนที่ชุมนุมด้วย โดยได้เปิดพื้นที่ของโรงเรียน 3 แห่ง ให้เป็นพื้นที่ไปอพยพและอาศัยได้ชั่วคราว คือ โรงเรียนวิชูทิศ อยู่ในเขตดินแดง นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนที่อยู่ใกล้บริเวณชุมชนบ่อนไก่ ถนนราชปรารภ และพื้นที่ใกล้เคียงด้วย
ที่หลังเวทีปราศรัยที่สี่แยกราชประสงค์ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำเสื้อแดง ปฏิเสธว่า นปช.และคนเสื้อแดงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงถล่มโรงแรมดุสิต ทุบตู้เอที เอ็มทุกเซเว่น และเผาโลตัสเอ็กเพรส ขอให้รัฐบาลจัดการตามกฎหมาย เพราะเราไม่สนับสนุนแนวทางนี้
อ้างแดงเทียม "ปล้นสะดม-มีอาวุธ"
"ดังนั้นเตือนว่าอย่าทำ การปล้นของเขาถือว่าเป็นมิจฉาชีพ มิใช่คนเสื้อแดง แม้แต่ธนาคารกรุงเทพจะเป็นของใครก็ตาม ไม่ควรไปทำลายทรัพย์สิน ส่วนที่มีภาพเปิดเผยทางอินเทอร์เน็ตว่ามีกลุ่มคนชุด ดำยิงเอ็ม 79 นั้น หากมีหลักฐานก็ขอให้นำมาแสดง" นพ.เหวงกล่าว
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า เราชุมนุมกันตั้งแต่ 12 มี.ค. จนถึงวันนี้เป็นการชุมนุมขับเคลื่อนที่ยาวนานที่สุด เราได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด เราได้พิสูจน์หัวใจในการต่อสู้ด้วยสันติ อหิงสา หากพี่น้องเราสะสมอาวุธ 500 คนเหมือนที่มีการระบุจริง คงไม่มีใครปกปิดได้ แต่ที่ไม่เห็น เพราะเราไม่มี หากรัฐบาลต้องการฆ่าก็ขอให้มาที่นี่ได้เลย เพราะประชาชนไม่มีอาวุธ แต่ 3 วันที่ผ่านมาได้ถูกยัดเยียดความตายถึง 35 ชีวิต และยัดเยียดว่าเป็นผู้ก่อการร้าย นี่คือชะตากรรมที่เลวร้าย
นายจตุพรกล่าวต่อว่า เราจะต้องทวงความยุติธรรมต่อไป ยิ่งฆ่าคน ประชาชนยิ่งต่อสู้ ผมยังมีความหวังเดียวคือพึ่งพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่มีความหวังอื่นอีกแล้วที่จะหยุดการฆ่าพสกนิกรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวได้ จากการปะทะมีคนตาย 64 ชีวิต บาดเจ็บนับ 2,000 คน บ้านเมืองจะกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไปแล้ว
"แต่ด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะยุติวิกฤตการณ์ที่คนไทย ฆ่ากันเพราะคนไทย และรัฐบาลจะเชื่อฟังพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียว" นายจตุพรกล่าว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดง แถลงว่า หากนายกฯ คิดว่าหากปราบปรามประชาชนและสลายการชุมนุมได้ รัฐบาลจะชนะ ประเทศไทยจะกลับคืนสู่ปกติ ขอยืนยันว่าไม่มีทาง วันนี้ประเทศจะกลับคืนสู่ปกติได้มีวิธีเดียวคือ รัฐบาลสั่งหยุดยิงและรับผิดชอบตามกระบวนการกฎหมาย ใครผิดก็ต้องได้รับโทษ
ส่วนแกนนำ นปช.หากมีความผิดตามข้อกฎหมายใด เราก็พร้อมเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยไม่มีเงื่อนไข ข้อเรียกร้องของเราที่ให้มีการเจรจาโดยเชิญยูเอ็นมาเป็นตัวกลางนั้น ตอนแรกเราจะส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือเพื่อขอรับทราบท่าทีจากยูเอ็นอีก ครั้ง หลังประสานงานไปก่อนหน้านี้ แต่เมื่อได้รับแจ้งว่า มีภิกษุจำนวนหนึ่งเดินทางไปยื่นหนังสือต่อยูเอ็นแล้วจึงยกเลิก เพราะไม่อยากให้เกิดความซ้ำซ้อน
"แต่เรื่องเร่งด่วนเวลานี้ไม่ใช่อยู่ที่ยูเอ็นจะว่าอย่างไร ต้องดูท่าที รัฐบาลมากกว่า เวลาสูญเสีย เข่นฆ่ากันถึงคราวยุติ คืนความสงบให้กับประเทศแล้ว เราพร้อมเดินหน้าเข้าสู่ ความสงบและเจรจา พร้อมนับหนึ่งทันทีตั้งแต่บัดนี้ ถามว่านายอภิสิทธิ์พร้อมหรือไม่ รัฐบาลจริงใจแค่ไหน" นายณัฐวุฒิกล่าวว่า อยากให้นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจ ว่าจะตัดสินใจรับผิดชอบทางการเมืองหรือเดิน หน้าเป็นนายรัฐมนตรี 100 ศพ คนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ด้านศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้ออกประกาศผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในเวลา 11.00 น. เรื่อง ให้ออกจากพื้นที่ชุมนุมโดยด่วน โดยย้ำรายละเอียด 3 ข้อที่เคยประกาศแล้วเมื่อวันพุธ โดยระบุว่า 1.ศอฉ.ขอให้ผู้ชุมนุมเดินทางออกจากพื้นที่โดยด่วน ภายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2553 เวลา 15.00 น.
2.ผู้ที่สมัครใจเดินทางออกจากพื้นที่ชุมนุมภายในเวลาที่กำหนด เจ้าหน้าที่จะ อำนวยความสะดวกให้ท่านเดินทางกลับภูมิลำเนาของท่านโดยปลอดภัย และ 3.หากผู้ใดยังอยู่ในพื้นที่การชุมนุมจะมีความผิดที่มีโทษจำคุกสูง สุด 2 ปี การอยู่ในพื้นที่ชุมนุมยังเป็นภัยต่อท่าน เพราะกลุ่มก่อการร้าย กำลังทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตในพื้นที่ชุมนุม
เสื้อแดงเมินคำขู่ "ศอฉ."
ต่อมาเครื่องบินของเจ้าหน้าที่จำนวน 2 ลำ บินวนรอบพื้นที่การชุมนุม พร้อมโปรยประกาศให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่สี่แยกราชประสงค์และบริเวณอื่นๆ ที่มีการรวมตัวของกลุ่มคนเสื้อแดงภายในเวลา 15.00 น. อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจได้ตะโกนโห่ไล่และจุดพลุ ประทัดขึ้นก่อกวนการบินและแกนนำยืนยันว่าจะชุมนุมต่อจนกว่าจะมีการหยุดยิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 ชั่วโมง หลัง ศอฉ.ขีดเส้นตายจนถึงเวลา 18.00 น. พบว่ายังมีประชาชนรวมตัวกันในบริเวณจุดชุมนุมตามจุดต่างๆ อยู่พอสมควร ทั้งด้านปทุมวัน ประตูน้ำ ราชดำริ แต่ก็พบว่ามีคนทยอยออกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มาก และคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจ แต่เห็นได้ว่าการ์ดตามจุดต่างๆ ได้มีการ เตรียมการรับมืออย่างเต็มที่ด้วยการเตรียมอาวุธต่างๆ เช่น ระเบิดขวด ไม้ เหล็ก จำนวนมาก
รวมทั้งมีการ์ด นปช.สมทบเข้าเติมตามด่านต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทั้งเย็น โดยเฉพาะตามด่าน ที่ทหารเริ่มขยับเข้ามาใกล้ๆ เช่น บริเวณใกล้หน้าห้างมาบุญครอง
ต่อมาเวลา 17.00 น. นายณัฐวุฒิแถลงหลังเวทีปราศรัยที่สี่แยกราชประสงค์ ว่าตลอด 24 ชั่วโมง ที่เราเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดยิง และเราแสดงความพร้อมเข้าสู่การ เจรจา แต่ปรากฏว่าเวลาที่ผ่านไปแทนที่เราจะได้รับคำตอบจากรัฐบาล กลับกลายเป็นว่าเราได้รับข่าวร้ายตลอดทั้งวันทั้งคืน เพราะมีการลั่นกระสุนใส่ประชาชน ทำให้บาดเจ็บ ล้มตายตลอดเวลากว่า 35 ชีวิต
นายณัฐวุฒิอ้างว่า เรามีความตั้งใจจริงที่จะใช้การเจรจาเพื่อยุติความรุนแรง และความสูญเสีย เพื่อนำพาบ้านเมืองเข้าสู่สันติภาพโดยเร็วที่สุด แม้ข้อเสนอการเจรจาที่มี องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาเป็นตัวกลาง จะยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนและยังรอคำตอบอยู่ แต่อย่างน้อยเราก็ได้รับข่าวสารที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาและยูเอ็น จะเข้ามาช่วยวิกฤติในประเทศไทย และแม้ว่าผ่านคืนนี้ไปเรายังไม่ได้รับคำตอบจากยูเอ็น แต่ในเช้าวันที่ 18 พ.ค. เราก็จะหารือกัน แล้วพยายามต่อไปที่จะให้เกิดการเจรจา
"หากองค์การนานาชาติยังต้องใช้เวลา เราอาจจะไม่รอ เราจึงต้องพยายามกันต่อ ให้เกิดการเจรจาหาทางออกสันติวิธีให้จงได้ ฝากไปยังนายอภิสิทธิ์ว่า ท่านผู้เป็นนายกฯ กรุณาอย่ายกว่าการเจรจาครั้งแรก ครั้งที่สองไม่ได้ผล และเอาข้ออ้างนี้มาล้มเลิกการเจรจาทั้งหมด ซึ่งการคิดแบบนั้นมันไม่ได้ เพราะการต่อสู้ทางการเมืองของทั้งสองฝ่าย การเจรจาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อ คลี่คลายวิกฤตการณ์ คงต้องมีการเจรจาครั้งที่สาม สี่ ห้า หก ซึ่งดีกว่าการฆ่าประชาชนอย่างแน่นอน"
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า หากจะสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ อยากให้บรรดาแม่ทัพนายกองพิจารณาให้ดีว่า กำลังทำอะไรอยู่ เพราะกำลังถูกคนในรัฐบาลหลอกใช้ให้มาเข่นฆ่าประชาชนเพื่อ ให้นายอภิสิทธิ์อยู่บนเก้าอี้นายกฯ ต่อไป แต่หลังจากนี้หากนายอภิสิทธิ์อยู่ไม่ได้ก็จะถูกทิ้ง พวกคุณมีชีวิต ราชการยังต้องเดินหน้า จะเอาเกียรติยศวงศ์ตระกูลมาให้นายอภิสิทธิ์อยู่ในเก้าอี้ต่อไปอย่างนั้นหรือ
ในช่วงค่ำที่เวทีราชประสงค์ มีแกนนำระดับรองลงมาปราศรัยให้คนเสื้อแดงที่ไม่ สามารถมาที่แยกราชประสงค์ได้ขอให้ไปรวมตัวที่ ม.รามคำแหง และใต้ทางด่วนราม อินทรา โดยที่เวทีรามคำแหงจะนำโดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่จะขึ้นเวทีปราศรัย และจะมีการเปิดเวทีตลอดทั้งคืน
ส.ส.เพื่อไทยขนคนสมทบ
มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้ ส.ส.ของพรรคในพื้นที่ต่างๆ เพื่อระดมมวลชนจากเขตเลือกตั้งละ 2,000 คนเป็นอย่างน้อย เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ กดดันให้นายอภิสิทธิ์ลาออกจากตำแหน่งและเดินทางออกจากประเทศโดยทันที
สำหรับกระบวนการระดมพลนั้นใช้สูตรสามประสาน คือ ในภาคเหนือและอีสานมีจุดรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณเขตดอนเมือง ภาคกลางใน จ.นครปฐม เพชรบุรี และกาญจนบุรี รวมพลกันที่ท้องสนามหลวง และภาคตะวันออกตั้งแต่ จ.ชลบุรี เป็นต้นไป รวมตัวกันที่ จ.สมุทรปราการ
โดยการเดินทางจะทยอยเดินทางกันเป็นกลุ่มเล็กๆ และไม่มีสัญลักษณ์ของ นปช.ติดตัวมาเพื่อหลีกเลี่ยงการสกัดกั้นจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ก่อนที่จะมารวมตัวกันในจุดนัดหมายทั้ง 3 จุด ซึ่งคาดว่ามวลชนแต่ละสายจะมีไม่น้อยกว่า 5 แสนคน ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะถูกงัดออกมาใช้ทันทีหลังจากที่นายอภิสิทธิ์เมินเฉยต่อข้อ เรียกร้องของแกนนำ นปช.ช่วงเช้าของวันที่ 18 พฤษภาคม มวลชนทั้งหมดจะพร้อมกันเดินทางไปสถานที่ที่นายอภิสิทธิ์อยู่ทันที
ที่กรมทหาราบที่ 11 รักษาพระองค์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พร้อมด้วยนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ในฐานะโฆษกรัฐบาล แถลงข่าวถึงการประชุม ศอฉ.ในช่วงเช้า
นายสาทิตย์กล่าวว่า รัฐบาลและ ศอฉ.ชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการของเจ้า หน้าที่ในการกระชับวงล้อมเป็นวันที่ 3 ว่า ประชาชนที่ติดตามข่าวสารจะเห็นว่าสถานการณ์บานปลาย มีกองกำลังติดอาวุธปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ทางรัฐบาลและ ศอฉ.มีประเด็นที่เป็นข้อสังเกต 3 ประการ
1.พื้นที่เกิดเหตุปะทะทุกจุดไม่มีจุดใดอยู่ในพื้นที่การชุมนุมบริเวณสี่แยก ราชประสงค์ และทุกจุดห่างจากที่ชุมนุม 1.5-2 กิโลเมตร ทั้งสิ้น แสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติถูกขัดขวางโดยมวลชนและกองกำลังติดอาวุธ 2.มีมวลชน ที่ใช้ความรุนแรงและกองกำลังติดอาวุธ จะเห็นว่ามีการใช้อาวุธหนักหลายชนิด เช่น ปืนเอ็ม 79 อาวุธที่เป็นหนังสติ๊ก และอาวุธอื่น และด้านหลังมีกองกำลังติดอาวุธโจมตีเจ้าหน้าที่
3.การใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่เป็นการป้องกันตัว ไม่ใช่ปฏิบัติการโจมตีของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
นายสาทิตย์กล่าวต่อว่า ที่เรียนให้ทราบเพื่อเป็นการป้องกันการบิดเบือน ข้อมูลข่าวสารที่ว่าทหารฆ่าประชาชน เรียนว่าไม่เป็นความจริง การข่าวของรัฐบาลและ ศอฉ.ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ขณะนี้เป้าหมายผู้ใช้ความรุนแรง ผู้ก่อการร้าย และผู้บงการซึ่งอยู่ต่าง ประเทศ ต้องการสร้างความสูญเสียชีวิตโดยใช้อาวุธสงคราม จะเห็นว่า นอกเหนือพื้นที่การชุมนุม และเข้ามาโจมตีเจ้าหน้าที่ และสามารถเกิดเหตุกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้
"การข่าวยืนยันว่า เป้าหมายให้สูญเสียชีวิตมากที่สุด โดยมีการว่าจ้างนักกฎหมายจากต่างประเทศ และพยายามหยิบฉวยสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีทางกฎหมายในต่าง ประเทศ และต้องการให้เกิดผลเสียต่อรัฐบาลและผู้บริหารราชการแผ่นดินอยู่ใน ขณะนี้"
ปูดเป้าฆ่าสื่อดึงต่างชาติ
นายสาทิตย์กล่าวว่า การข่าวยืนยันชี้ให้เห็นว่า เป้าหมายต่อไป มีกลุ่มเสี่ยง 3 กลุ่มที่จะถูกปฏิบัติการโดยกองกำลังติดอาวุธของผู้ก่อการร้าย คือ 1.สื่อมวล ชนไทยและต่างประเทศ ซึ่งทาง ศอฉ.ได้แจ้งให้สื่อมวลชนซึ่งทำงานในพื้นที่รับทราบ รวมถึงต้องแจ้งการทำงานกับเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยกันและสื่อที่ทำงานในพื้นที่ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุด
2.ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสาธารณสุขในพื้นที่เกิดเหตุปะทะซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ ศอฉ.ได้แจ้งแล้วว่าเป็นเป้าหมายหนึ่ง โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายต้องการให้เกิดการสูญเสียเพื่อสร้างเป็นเงื่อนไขให้ ลุกลามบานปลายของสถานการณ์และความรุนแรงต่อไป 3.ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ ในพื้นที่เกิดเหตุโดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายประสงค์ให้เสียชีวิตและ ทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังและแจ้งเตือนประชาชนดำเนิน การให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมออกจากพื้นที่ภายในเวลา 15.00 น.
นายปณิธานกล่าวถึงข้อเรียกร้องของแกนนำ นปช.ว่า วันนี้รัฐบาลได้รับทราบถึงข้อเรียกร้องของแกนนำ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน ยืนยันว่า ข้อเสนอใดๆ ของแกนนำ นปช.ต้องอยู่บนเงื่อนไขความตั้งใจจริง เจตนารมณ์ของความพยายามทุกรูปแบบเพื่อให้บ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ยืนยันว่าความตั้งใจจริงเหล่านี้ต้องสะท้อนในรูปแบบยุติการชุมนุม จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้กับสังคมไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการจ้างทีมกฎหมายเข้ามาติดตามและเก็บข้อมูลเพื่อฟ้องศาลโลก มีการดำเนิน การอย่างไรกับผู้บงการบ้าง นายสาทิตย์กล่าวว่า มีการดำเนินการอยู่เป็น ระยะๆ แต่ช่วงหลังที่มีการปรากฏข่าวเป็นเพราะเกิดผลกระทบต่อสถานการณ์ที่มี การปะทะ และมีการแถลงเพื่อให้ระมัดระวังตัวเพื่อป้องกันการบิดเบือนข่าวสารในอนาคต
เมื่อถามว่าข้อเสนอแกนนำคือเรื่องอะไร นายปณิธานกล่าวว่า มีการเสนอให้เจรจา ส่วนแนวทางพูดคุยยังไม่ชัดเจน แต่เรามีจุดยืนที่ชัดเจนว่าขอให้ยุติการชุมนุม
นายสาทิตย์กล่าวถึงนายณัฐวุฒิที่ขอเจรจาโดยให้ทหารหยุดปฏิบัติการว่า ข้อเท็จจริงคือจุดปะทะที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าไปในพื้นที่ การชุมนุม แต่มีกลุ่มผู้ติดอาวุธเข้ามาโจมตีเจ้าหน้าที่ที่ด่านสกัด ฉะนั้น ข้อเรียกร้องนี้ทางกลุ่ม นปช.สามารถปฏิบัติการได้ทันทีด้วยการสั่งให้มวลชนที่ใช้ความรุนแรง และกองกำลังติดอาวุธขอให้หยุดปฏิบัติการและอยู่ในพื้นที่การชุมนุม การปะทะทั้งหมดจะหยุดลง
"นี่เป็นข้อเสนอที่ทาง นปช.สามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งข้อเสนอนายกฯ ทั้งหมดต้องยุติการชุมนุมจบลง แผนปรองดองทั้ง 5 จะเดินหน้าต่อและจะเดินหน้าสร้างความเป็นธรรม แต่ถ้ายังชุมนุมอยู่แบบนี้ ความเสียหาย เดือดร้อน จะบานปลาย รัฐบาลไม่ปฏิเสธการพูดคุยเจรจา แต่ทาง นปช.ล้มโต๊ะการเจรจาถึง 2 ครั้ง สถานการณ์วันนี้บานปลายและจำเป็นต้องยุติการชุมนุม ซึ่ง นปช.ยุติได้ทันที" นายสาทิตย์กล่าว
นายปณิธาณกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงไปยังองค์กรนานาชาติ โดยหลักการเข้าใจดี ว่าองค์กรระหว่างประเทศรวมทั้งรัฐบาล เป็นกังวลต่อความรุนแรงและต้องการยุติปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นหลักการสากลที่ทุกรัฐบาลจะแถลงแบบนี้ แต่ถือเป็นปกติที่องค์กรต่างชาติแถลงจุดยืนเป็นห่วงเป็นใย เช่นเดียวกับที่ ไทยในฐานะประธานอาเซียนไทยก็ได้แสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อสถานการณ์อย่างต่อ เนื่อง
"ต้องยอมรับความจริงว่า มีความพยายามจะดึงเอาต่างประเทศหรือนานาประเทศเข้า มาเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งภายในประเทศ ไทยมีความสัมพันธ์อันดีต่อประเทศ ต่างๆ ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์นั้นได้ มีความเปลี่ยนแปลงเรื่องการเรียกร้องบ้าง" นายปณิธาณกล่าว
"แม้ว"จ้างนัก กม.สังเกตการณ์
ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงกรณีที่รัฐบาลและ ศอฉ.ระบุ พ.ต.ท.ทักษิณขัดขวางแผนการเจรจาปรองดอง เพราะต้องการให้มีการชุมนุมต่อไปว่า ขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณสนับสนุนแนวทางการยุติปัญหาด้วยการเจรจาอย่างสันติวิธี ล่าสุดแกนนำ นปช.ได้เรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เข้ามาแก้ปัญหา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณก็สนับสนุนแนวทางของ นปช.
ส่วนที่มีผู้เสียชีวิตนั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้แสดงความเสียใจ เพราะมองว่าคนไทยไม่ควรฆ่ากันเองและควรยุติเหตุการณ์ให้เร็วที่สุด ดังนั้น ที่รัฐบาลและ ศอฉ.พยายามบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวข้องเพราะไม่ได้ประโยชน์จากแผนโรดแม็พ เป็นการกล่าวเท็จและต้องการลดความน่าเชื่อถือของ พ.ต.ท.ทักษิณ
เมื่อถามว่าเหตุใดจึงดึงยูเอ็นเขามาร่วมตรวจสอบ ทั้งที่เมื่อครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ เคยระบุว่าไม่ต้องการให้ยูเอ็นเข้ามาแทรกแซงการทำงาน นายนพดลกล่าวว่า สมัย พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ไม่เคยมีคนตายมากขนาดนี้ แต่ครั้งนี้เชื่อว่ายูเอ็นเป็นองค์กรกลาง เป็นเหมือนรัฐบาลโลก น่าจะเข้ามาประสานยุติความรุนแรงได้
ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีแนวคิดที่จะช่วยพูดให้ นปช.ยุติการชุมนุมหากรัฐบาลสั่งหยุดยิงหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตนได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวกับที่แกนนำ นปช.แถลงว่า พร้อมเจรจาหากรัฐบาลหยุดยิง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณย้ำว่าเป็นเรื่องของ นปช.ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
ต่อข้อถามกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจ้างทีมกฎหมายต่างประเทศให้เคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาล นายนพดลยอมรับว่ามีการจ้างทีมกฎหมายในการนำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อนำเสนอข้อ เท็จจริงให้ประเทศต่างๆ รับทราบ รวมทั้งเตรียมการในการยื่นศาลอาญาระหว่างประเทศ หากมีการสั่งฆ่าประชาชนเป็นจำนวนมาก
ถามว่ามีคนในตระกูลชินวัตรโอนเงิน1 หมื่นล้าน เพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อจริงเรื่องนี้ แต่การเบิกเงินเพื่อทำธุรกรรมถือเป็นสิทธิ
ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ออกถ้อยแถลงเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติ แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ต่อกรณีที่รัฐบาลไทยได้ใช้ความรุนแรงกับผู้ ประท้วง โดยกล่าวว่า การใช้กระสุนจริงต่อผู้ประท้วงที่ปราศจากอาวุธ นับเป็น "การตอบโต้ที่เกินกว่าเหตุ" ซึ่งละเมิดรัฐธรรมนูญของไทยและหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตามกฎหมายระหว่าง ประเทศ ทั้งนี้ เขาเรียกร้องให้บรรดาผู้นำในภูมิภาคและผู้นำประเทศมหาอำนาจ ร่วมกันออกคำเรียกร้องขอให้กองกำลังของรัฐบาลไทยยุติการใช้ความรุนแรง และหวนคืนสู่กระบวนการประชาธิปไตย"
นายอัมสเตอร์ดัมกล่าวว่า รัฐบาลไทยได้ละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิทางการ เมืองและสิทธิพลเมืองของสหประชาชาติ และหลักการสากลว่าด้วยความศักดิ์สิทธิ์ สูงส่งของชีวิตมนุษย์ และหลักการต่างๆ ที่ว่าด้วยข้อพึงปฏิบัติของรัฐต่อพลเมืองของตน และว่า รัฐบาลไทยจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้น
สำนักข่าวเอบีซีของออสเตรเลียรายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย สตีเฟน สมิธ กล่าวว่า ตนรู้สึกวิตกกังวลกับสถานการณ์ในประเทศไทย "ผมวิตกกับจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหวนคืนสู่การเจรจา ปัญหานี้ต้องการการหาข้อยุติตามกระบวนการทางสภาผู้แทนราษฎรและทางกระบวนการ ประชาธิปไตยของประเทศไทย"
อย่างไรก็ตาม มีความเคลื่อนไหวจากพรรคประชาธิปัตย์ที่รวมกลุ่มตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณที่เตรียมยื่นหนังสือให้นายบัน กีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ วันพรุ่งนี้ เปิดโปงเป้าหมายกลุ่มคนเสื้อแดง และให้จัดสถานะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอาชญากรข้ามชาติ โดยนายอรรถพร พลบุตร เผยว่า วันอังคารนี้ ส.ส.ประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่งจะเข้ายื่นหนังสือดังกล่าวต่อเลขาธิการองค์การสห ประชาชาติ เพื่อชี้ให้เห็นถึงเบื้องหลังเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ และ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือผู้สั่งการให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. เรียกประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น.ผบก.ทั้งหมด รอง ผบก. ผกก. ทุก สน.เตรียมพร้อมรับมือในสถานการณ์การชุมนุม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมการป้องกันเหตุและดำเนินคดีผู้ที่กระทำผิด กฎหมาย
พล.ต.ท.สัณฐานกล่าวว่า การประชุมเพื่อกำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผกก., รอง ผกก.ปป., รอง ผกก.สส., สวป., และ สว.สส. หรือ 5 เสือโรงพักต้องทำงานเต็มที่ คือ 1.ต้องดูแลความสงบเรียบร้อยให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมให้ดีที่ สุด 2.ด้านคดีอาชญากรรมโจรผู้ร้ายก็ต้องดูแลเหมือนเดิม
3.ต้องพยายามพูดคุยเจรจาให้ผู้ชุมนุมต่างๆ เข้าใจว่า ขณะนี้บ้านเมืองเสีย หายมากแล้ว และการเข้ามาชุมนุมนั้นผิดกฎหมาย โดยขอร้องว่า เป็นคนไทยด้วยกันการกระทำต่างๆ ขออยู่ในกรอบกฎหมาย และกำชับทุก สน.ต้องอย่าให้ตั้งเวทีการเจรจาที่ขัดขวางกีดขวางการจราจร เพราะได้รับการร้องเรียนจากประชาชน รวมถึงผู้ชุมนุมปราศรัยก็อย่ากีดขวางการ จราจร 4.ต้องการให้ ผกก.สน.ต่างๆ รวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชาให้เข้าใจการทำงานของ ศอฉ.ซึ่งมีทหารเป็นแกนนำ ตามกฎหมายตำรวจสนับสนุนการทำงานของทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น.ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ ทิวาไทยคอนโดมิเนียม บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยเห็นว่ามีชาย 2 คนได้นำถังน้ำมันเชื้อเพลิงไปราดบนแสลนที่คลุมคอนโดฯ ดังกล่าวซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และมีการจุดไฟทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้น แต่ก็สามารถควบคุมเพลิงได้อย่างรวด เร็ว และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ที่อยู่อาศัยบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงในปัจุบันแทบจะไม่มีผู้คนอยู่อาศัย เพราะมีการอพยพหนีจากเหตุการณ์ปะทะกันอย่างรุนแรงตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา.
http://www.thaipost.net/news/180510/22321
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น