วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เมื่อ "อภิสิทธิ์-๓ เกลอ" เจอทางตัน / เปลว สีเงิน 5 พฤษภาคม 2553

"คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ผมต้องการบอกว่า...ด้วยความรับผิดชอบบนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของท่าน "ถูกต้องแล้ว" ที่ตัดสินใจ "แก้การเมืองด้วยการเมือง" ในแนวทาง "ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่ ๑๔ พฤศจิกา" ซึ่งหมายความว่า ต่อจากนี้อีก ๕ เดือน ถึงกันยา ช้าที่สุด วันที่ ๑ ตุลา คือวัน "ยุบสภา" และก็ขอบอกกับแกนนำกองกำลังกบฏด้วยว่า...ฉลาดที่ "รู้เขา-รู้เรา" ซื้อเวลาหายใจภายใต้แผนปรองดองได้อีกระยะหนึ่ง!

ไม่ต้องหวั่นไหว...คุณอภิสิทธิ์ ท่านเป็นนายกฯ ทุกความรับผิดชอบเป็นของท่าน ฉะนั้น เมื่อท่านเป็นนายกฯ มีอำนาจนายกฯ อยู่ในมือ จงตัดสินใจในสิ่งที่ท่านเห็นว่า "ดีที่สุด" สำหรับชาติ-ประชาชน และเมื่อตัดสินใจลงไปแล้ว ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ และไม่ดี!

ดูเหมือนว่าบรรดาแกนนำกองกำลังเสื้อแดงก็ "ประกาศยอมรับ" แผนปรองดอง ๕ ข้อของท่าน เพียงแต่มีข้อสงสัยเป็นชั้นเชิง ๓-๔ ข้อ ที่ต้องการความชัดเจนจากฝ่ายรัฐบาลก่อนเข้าสู่กระบวนการปรองดองและนั่งโต๊ะเจรจากันเป็นเรื่อง-เป็นราว และ ๒ ใน ๔ เงื่อนไขที่ฝ่ายแดงเสนอกลับไปยังฝ่ายรัฐบาลว่า
- ไม่ขอนิรโทษกรรมให้แก่ นปช.ในข้อหาโค่นล้มสถาบัน และการก่อการร้ายอย่างเด็ดขาด พร้อมสู้คดี และ
- ต้องยุติการนำสถาบันกษัตริย์ลงสู่ความขัดแย้งในทุกมิติ นั้น

พูดได้คำเดียวว่า "ฉลาด" และหยั่งรู้สถานการณ์ ไม่เสียทีทำงานใหญ่ถึงระดับนำคน "กบฏบ้าน-กบฏเมือง"!

ต้องยอมรับว่า สถานการณ์มาถึงขณะนี้ ทั้งนายกฯ อภิสิทธิ์ และทั้งฝ่ายแกนนำกบฏ "หลังชนฝา" ด้วยกันทั้งคู่ "คนนอก" ทั่วไปนั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่า "สถานการณ์และปัญหาภายใน" ของแต่ละฝ่าย มันกลายเป็น "ศึกกระหนาบ-หนามในอก" ของพวกเขาขนาดไหน?

คนถือหางแต่ละฝ่ายก็เชียร์กันไป แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ และวีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ เมื่อต้องนำทัพเข้าสู่สมรภูมิ "ปฏิบัติจริง" ด้วยความรับผิดชอบสู่เป้าหมาย แต่ละฝ่ายต่างบอกกับใจตัวเองว่า "มันไม่ง่ายเหมือนในหนังจีน" จนบางครั้งอยากตะโกนบอกพวกเชียร์มวยข้างสนามเสียด้วยซ้ำว่า

"เอ้า...พวกมึงลองมาเป็นกูบ้างซิ แล้วจะรู้"!?

จากแค่ "รับจ้างทักษิณ" เขย่าการเมืองประเทศผ่านรัฐบาลอภิสิทธิ์ด้วยอิจฉา "เมื่อตัวกูหรือพวกกูไม่ได้กิน ก็อย่าหมายว่าจะปล่อยให้พวกมึงกินกันได้สบาย" แต่นายใหญ่ไม่ได้จ้างวงเดียวแสดง ดันแอบไปจ้างวงโน้น-วงนี้ให้ต่างมาเป่าปี่-ตีกลองร่วมกัน ทั้งวงเสธ.แดง วงสยามแดง วงแตงโม วงมะเขือเทศ วงนักวิชาเกิน วงศ์ซ้ายอกหัก วงท่านผู้ทรงเกียรติทั้งใน-นอกสภา ไม่เว้นกระทั่งวงเสือโหย-หมาหิว และกระสือสื่อ

เมื่อมารวมกันเข้าจึงเหมือน "ตะกวดสิบหาง-จงอางสิบหัว" พอลงมือปฏิบัติการจึงพล่านและมั่ว หลงตน-ลืมตัว ต่างคน-ต่างทำ ได้ทีก็รวมกันเฮ แต่พอพลาดท่าเซ ต่างหายหัว...มึงทำ กูไม่ได้ทำ สุดท้าย-หงายไพ่ท้ายสำรับ "ก่อนสำเร็จ" ด้วยการปลุกปั่นชาวบ้าน "ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบบประเทศ"!

เริ่มต้นก็สู้เพื่อทักษิณ ไม่เจ้าท่า-เปลี่ยนเป็นสู้เพื่อประชาธิปไตย ต่อๆ มาเปลี่ยนใหม่สู้เพื่อแดงทั้งแผ่นดิน เห็นไม่เป็นผลแผลงเป็นสู้เพื่อล้มระบบอำมาตย์ ประกาศทำสงครามชนชั้น "ล้มล้างสถาบัน" หนักๆ เข้าชักเมามัน จากชุมนุมสันติ-อหิงสา ปราศจากอาวุธ เพิ่มระดับขึ้นเป็นการชุมนุมที่มีกองกำลังติดอาวุธ ฆ่าทหาร ยึดบ้าน-ยึดประเทศ

ใหม่ๆ คนที่มาชุมนุม เมื่อได้ยินแกนนำตะโกนบนเวทีให้สันติ-อหิงสา ถามกันเองว่า "อหิงสา" ใช่ "มหิงสา" ที่หน้าตาเหมือนจตุพร-สุภรณ์ หรือไม่? เขาให้ตะโกนก็ตะโกนกันไป ทั้งที่ไม่รู้เรื่อง และไม่เข้าใจอะไรกันเลย!

สรุปก็คือ ขึ้นต้นเป็น "๓ เกลอหัวขวด" แต่ลงท้ายบานปลายเป็น "๒๔ เกลอหัวครก" ทั้งเจตนา นโยบาย และการเดินเกมม็อบ ไม่รู้ใครคุมใคร-ใครได้ เพราะต่างฝ่ายต่างมีเป้าหมาย เพียงอาศัยคราบทักษิณขับเคลื่อนขบวนมวลชน ลงท้ายก็เหมือนรถไฟลงจากเขาแถมทางโค้ง ใครก็คุมใครไม่ได้

รับใช้ทักษิณ แต่แย่งกันกิน-แย่งกันตะกายตึกเอาหน้า แย่งกันจนเป็นกองกำลังก่อการร้าย ทำกันจนฉิบหายทางมวลชน กลายเป็นกลุ่มเสนียด ขบวนการแดงน่ารังเกียจของทั้งคมไทยและสังคมโลก ฆ่าทหาร-ปิดถนน-ปิดโรงพยาบาล-ปิดสภากาชาด ยึดราชประสงค์ ศูนย์ธุรกิจการค้าใหญ่ใจกลางเมืองหลวง

ลงท้าย...เมื่อประชาสังคมขยะแขยงสุดทน รวมตัว "ลุกขึ้นต่อต้าน" ทั้งบ้าน-ทั้งเมือง กบฏทักษิณเลยกลายสภาพเป็น "โจรแผ่นดิน" ที่โดดเดี่ยว ใครไม่อยากให้อยู่ร่วมแผ่นดิน

แรกๆ เข้าใจว่ายึดราชประสงค์เท่ากับจับกรุงเทพฯ เป็นตัวประกัน แต่ที่ไหนได้ หลังจากประชาสังคมลง "พรหมทัณฑ์" พวกตัวเองกลายเป็นถูก "ตำรวจ-ทหาร" รวมทั้งประชาชนปิดกั้น จะขยับขยายออกไปทางไหนก็ไม่ได้เหมือนควายติดคอก!

ชาวบ้านให้แกนนำแต่ละหมู่บ้าน-ตำบล-อำเภอ-จังหวัด "ยึดบัตรประชาชน" ไว้ ก่อนมาชุมนุม เพราะเขาหลอกว่า "ชนะแล้ว ทักษิณกลับมาเขาจะแจกให้คนละ ๒ แสน" ตอนนี้มีแต่บัตรประชาชนอยู่ในมือพวกแกนนำเป็นเข่ง แต่ชาวบ้าน "เจ้าของบัตร" หนีกลับไปมากต่อมาก จึงเป็นปัญหาหนักหน้าแกนนำ "๓ เกลอหัวขวด"

พวกตัวเองเหมือน "ไข่แดง" อยู่รอดได้ทุกวันนี้เพราะชาวบ้านที่เหลือเหมือน "ไข่ขาว" ห่อหุ้มไว้ เมื่อไข่ขาวค่อยๆ หายไป พวกไข่แดงรู้แล้วว่า...ความตายกรายมาถึงหัวแล้ว!

ข่าวทักษิณตาย ๑ แกนนำแตกกัน-จนตรอก ๑ นายทุนเริ่มไม่จ่าย ๑ ประชาสังคมต่อต้าน ๑ เข้าขั้นกบฏ-ก่อการร้าย ๑ แนวร่วมต่างชิ่งเอาตัวรอด ๑ และบุกโรงพยาบาลจุฬาฯ อีก ๑ เหล่านี้คือ "ปัญหาภายใน" ผลักให้ ๓ เกลอหัวขวด "หลังชนฝา" ไม่สามารถ "ปากกล้า-ขาสั่น" อีกต่อไปได้

ขืนดันทุรัง จากไม่ตาย และ (อาจ) ได้ประกัน จะหนักหนาถึงขั้น ถ้าไม่ตาย ก็ไม่ได้ประกัน!?

สำหรับนายกฯ อภิสิทธิ์ การผ่าทางตายให้ประเทศไทยและสังคม มีทั้งเสียงขานรับ และเสียงด่ายับ แต่ดูเหมือนว่า "เสียงขานรับ" จะมากกว่า การเมืองเรื่องประเทศชาติ นั่นพูดกันเผินๆ แต่ลึกในเนื้อแท้ "การเมืองเรื่องของประชาชน" ฉะนั้น การเลือกตัดสินใจในทางที่ "ฝ่ายตรงข้ามน้อมสนอง" ย่อมประเสริฐ

เพราะการแก้ปัญหาโดย "คนไม่ตายเลย" ดีที่ ๑ "ตาย-แต่ตายน้อยที่สุด" ดีที่ ๒ แต่สามัคคีคืนใจกลับเป็นเนื้อเดียวกันได้ดีที่สุด!

อาจารย์การเมืองท่าน "อดีตนายกฯ ชวน" ดูจะไม่พอใจถึงขนาดประกาศตัวว่า "อยู่ฝ่ายไม่ยุบสภา" ก็ไม่เป็นไร ช่างท่านเถอะ ท่านอาจพอใจอยู่ฝ่าย "ยุบพรรค" ก็ได้ เพราะตอนนี้ "ประชาธิปัตย์" พระศุกร์เข้า-พระเสาร์แทรก ถูกคดีโทษยุบพรรคนุงนังน่าว้าวุ่นใจอยู่!

แฟนๆ ที่ยึดภาษิต "เลือดต้องล้างด้วยเลือด" ดูจะผิดหวังท่านเยอะ ท่านก็รับทราบเถอะ แต่ไม่ต้องกังวลใจ ปัญหาที่ต้องแก้ไขเฉพาะหน้าคือ "ทำอย่างไรจึงจะคืนความสงบให้บ้านเมืองได้ก่อน?" และท่านก็ทำได้แล้ว อย่างน้อยก็ ๒ วันละที่ "ทุกอย่างสงบในที่ตั้ง" ด้วยผลจากแผนปรองดอง

ทั้ง ๕ ข้อนั้น ใน ๔ ข้อต้องทำต่อเนื่องทั้งชาติและทั้งชีวิต นั่นก็ยังไม่แน่ว่าจะสำเร็จระดับไหน ฉะนั้น ที่สนใจเป็นรูปธรรมมากที่สุดก็คือ "กำหนดวันยุบสภา" ดูตามตารางเวลาที่กำหนด ผมก็ว่าโอเคนะ!

ถึงสิ้นกันยา...แต่งตั้ง-โยกย้ายข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ "ประจำปี" เสร็จหมดแล้ว และ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๕๔ ก็เสร็จแล้ว จะอยู่ทำไมอีกล่ะในบรรยากาศเช่นนี้?

ตรงนี้ยังไม่ต้องคุยรายละเอียด เพราะอีกนาน และท่านก็อย่าเพิ่งทึกทักนะว่า "ปัญหาจะจบ" และจะได้เลือกตั้งกันในเดือนพฤศจิกาตามเจตนาที่วาดหวัง

ผมจะบอกให้ เหตุการณ์ที่บานปลายจากชุมนุมการเมืองเป็น "กบฏภายในราชอาณาจักร" พร้อมพรักด้วยกองกำลังอาวุธร้ายแรงนั้น จะพูดไปก็ "ทักษิณเป็นต้นเหตุปัญหา" ก็จริง แต่สาเหตุของปัญหาที่ขยาย-ปลายบานไปถึงขั้นนี้ ประเด็น "จบ-ไม่จบ" ไม่ได้อยู่ที่ทักษิณแล้ว หากแต่พัฒนาไปอยู่ที่ ความขัดแย้ง-แบ่งฝ่าย และการแก่งแย่งอำนาจของ "คนในกองทัพ" ภายใน สมทบด้วยตำรวจ เรียกว่าปัญหาบ้านเมืองเวลานี้ ตำรวจ-ทหาร ทั้งในราชการและนอกราชคือ "ตัวฟันเฟืองใหญ่" กระทั่งอำนาจในมือนายกรัฐมนตรี สั่งได้...

แต่ไม่สนใจซะอย่าง ใครจะทำไม?


นี่คือประเด็นที่ต้องเห็นใจ "ด้วยเข้าใจ" คนที่เป็นนายกรัฐมนตรี "สั่งได้" แต่ไม่ขับเคลื่อน แล้วจะให้ทำอย่างไร นอกจากเอา "หลังพิงฝา" แล้วใช้สติปัญญาตัดสินใจภายใต้กรอบอำนาจที่ตัวเองทำได้เท่านั้น!

สมมุติว่า "ม็อบจบ" แต่การเมืองเรื่องแบ่งข้าง-แบ่งขั้ว (ชิง) อำนาจ "ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ" ยังไม่จบ "ยิ่งใกล้กรกฎา-สิงหา เผลอๆ หลังวันที่ ๒๘ พฤษภานี้ไป ทหารบางพวกอาจจะมี "ความคิดใหม่" ให้ตื่นตา-ตื่นใจกันอีกก็ได้

ผมเพียงให้ข้อสังเกตไว้ อย่าไปจริงจัง!

ฉะนั้น เรื่องเลือกตั้ง ๑๔ พ.ย. "ฝันชั่วคราว" เถอะ อย่าเพิ่ง "ฝันข้ามคืน" กันเลย กบฏแดงก็เพียงสลบ แต่ยังไม่ยอมสลาย เงื่อนไขที่ทำให้ "เชื้อชั่วไม่ตาย" ยังมีอยู่เยอะ แต่จะบอกให้สบายใจ ขณะนี้ "ประชาสังคมไทย" ตื่นแล้ว ต่อให้การเมือง-การบ้าน-การทหาร-การม็อบ ใครแหลมผิดทางออกมาเมื่อไหร่

"ประชาสังคมไทย" เอา (มึง) แน่!

ที่มา เปลว สีเงิน 5 พฤษภาคม 2553 / http://www.thaipost.net/news/050510/21773

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น