วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แผนใหม่ "Back Door" ประเทศไทย? / เปลว สีเงิน 10 พฤษภาคม 2553

"ผู้ ที่ไม่สนับสนุนแผนปรองดอง ชัดเจนว่ากลุ่มหนึ่งคือ "กลุ่มก่อการร้าย" เพราะเขารู้ว่าหากการชุมนุมยุติลง และเข้าสู่การปรองดอง กลุ่มเขาจะถูกโดดเดี่ยว ไม่สามารถเอามวลชนมาเป็นโล่มนุษย์ได้ ทำให้กลุ่มนี้พยายามสร้างความรุนแรง เพื่อล้มแผนปรองดอง คนแสดงตัวชัดเจนนั้น ผมระบุเลยก็ได้คือ "พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล" หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก มีความพยายามไม่ ให้การชุมนุมยุติ โดยเสธ.แดงได้พูดชัดเจน และมีความพยายามประสานกับแกนนำภูมิภาค ที่สำคัญ เสธ.แดงบอกด้วยว่าเขาก็จะฟังจากคุณทักษิณ........"

ครับ...แล้ว ไง ท่านนายกฯ?

ผมได้ยินข้อความข้างบนนั้นจากปากท่าน เองในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทย" เมื่อเช้าวานนี้ (๙ พ.ค.๕๓) ตั้งแต่ตอนเช้า ตอนบ่าย ตอนค่ำ และตอนท้ายข่าวดึกๆ ก็คิดว่าคงมีเวียนมากรอกหูอีก

แล้วไงต่อล่ะ....ถามจริง?

กลุ่มก่อการร้ายก็ดี ผู้พยายามล้มแผนปรองดองก็ดี ท่านก็ระบุชัดลงไปแล้วว่าคือ "พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล" เป็นกลุ่มรับคำสั่งตรงจาก "ทักษิณ" แล้วไปประสานการเคลื่อนไหวกับแกนนำภูมิภาคตามยุทธศาสตร์-ยุทธวิธี "ตะกวดสิบหาง-จงอางสิบหัว"!

แล้ว "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" รัฐมนตรีกลาโหม และ "พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" ผู้บัญชาการทหารบก ทราบหรือยังว่า หนึ่งในกลุ่มก่อการร้ายนั้นคือ "ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน" นามว่าพลตรีขัตติยะ ซึ่งยังคงมีฐานะนายพลแห่งกองทัพบกไทยคาบลูก-คาบดอกอยู่ในราชการเวลานี้

แต่ท่านก็เหมือนจงใจปล่อยให้ "แต่งเครื่องแบบนายพล" ไปร่วมปฏิบัติการกับกลุ่มกบฏแผ่นดิน ครั้งแล้ว-ครั้งเล่า อันมีภาพปรากฏชัดให้เป็นที่สงสัยกันทั้งคนไทย และคนทั้งโลกว่า

แล้วรัฐมนตรีกลาโหม-ผบ.ทบ.เขาเอาปี๊บคลุมหัวอยู่รึยังไง?

หรือว่า..... นี่คือการ "เล่นไพ่ ๒ หน้า" ของกองทัพ?!

ผมก็อยาก "แก้ข่าว" เพื่อช่วยรักษามาตรฐานไทยและมาตรฐานกองทัพว่า ไม่ใช่หรอก ทั้งนายกฯ ทั้งรัฐมนตรีกลาโหม และทั้ง ผบ.ทบ.ลึกๆ ในใจท่านคงอาย กลุ้มใจ และไม่ต้องการเล่นไพ่ ๒ หน้า ๓ หน้า แต่อย่างใด หากแต่เสธ.แดง "แหกคอก" ทำไปด้วยตัวเอง เพราะคนควบคุม-ดูแลคอกนั้น

มันห่วยแตกไงล่ะ!

คุณอภิสิทธิ์ต้องไม่ระบุชัดลงไปเช่นนั้นด้วย "เข้าใจเอาเอง-คิดเอาเอง" แน่นอน เพราะท่านเป็นนายกฯ ไม่ใช่คนเขียนข่าวอย่างผมที่ชอบคิดเอง-เออเอง จนถูกด่า "ยามไม่เป็นดังใจ" เป็นประจำ และในทางพฤตินัย คำพูดนายกฯ คือ "กฎหมาย" มีผลทางปฏิบัติกรายๆ ในเมื่อสามารถระบุชื่อเสธ.แดงอยู่ในกลุ่มผู้ก่อการร้ายเช่นนี้ แสดงว่า

"พยาน-หลักฐาน-การข่าว" ในมือท่าน...แน่นปึ้ก!?

เมื่อแน่นปึ้ก "อย่าปล่อยคนชั่วลอยนวล" ต่อไปเป็นอันขาด ศอฉ.ซึ่งพลเอกอนุพงษ์ได้รับมอบอำนาจ "ในส่วนปฏิบัติการ" จากนายกฯ ให้ "สั่งได้โดยตรง" อยู่แล้ว

ก็สั่งการ...ไปเอาตัวมาเลยคร้าบบบ...เจ้านาย! หรือนายกลัวลูกน้องก็ไม่รู้ซีนะ?!

หันมาดูในส่วนกบฏทักษิณบ้าง "เปลือกนอก" ชุมนุมสันติ-อหิงสา ห่อหุ้ม "เนื้อใน" คือกองกำลังก่อการร้ายเอาไว้ ร่วมกันอยู่แล้ว "แยกกันตี" ตามแผน "ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบบ"

แต่ฉากหน้า ขึ้นเวทีทำตาใส-ใจคด-ปากก็โป้ปดว่า "ไม่เกี่ยวกัน" แต่รากมันพันกันอยู่ใต้ดิน จากปฏิบัติการ "กบฏยึดเมือง" ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ถึงวันนี้ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ อีก ๒ วันก็จะครบ ๒ เดือนพอดี

ถึงวันที่ ๑๐ พฤษภานี้ "สมควรแก่เวลา-พอกันที" ได้แล้วกระมังครับกับการ "ประนี-ประนอม" กบฏเมือง?

โรงเรียนหลายๆ แห่งก็เริ่มเปิดเทอมแล้ว การยังปล่อยให้กลุ่มกบฏยึดเมืองขี้-เยี่ยวรดอยู่อย่างนี้ต่อไป ไม่เพียงทำลายประเทศ ไม่เพียงทำลายเศรษฐกิจ ไม่เพียงย่ำยีหัวใจคนไทย แต่มันเป็นการจงใจ "ตัดรากแก้ว" ประเทศไทยโดยตรง

ในเมื่อขัดขวางไม่ให้เด็กไปเรียนหนังสือได้ เท่ากับจงใจจะทำประเทศไทยให้เป็นพันธุ์ GMO พวกมันคงต้องการให้ประเทศไทยเป็นประเทศ "พลเมืองควาย" ในอนาคตแน่ๆ?

นายกฯ ประกาศแผนปรองดองตั้งแต่วันที่ ๓ พ.ค. พร้อมกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ๑๔ พ.ย.๕๓ แกนนำกบฏขานรับ แต่ในขณะที่ขานรับเข้าร่วมแผนปรองดอง แทนที่จะสลายการชุมนุม ปล่อยชาวบ้านกลับไปทำไร่-ทำนา กลับเตะถ่วง-หน่วงดึงไว้เป็นโล่มนุษย์ให้ตัวเองวันแล้ว-วันเล่า

ปากบอกว่าเห็นด้วย แต่ขอเวลาหารือพรรคพวก วันก็แล้ว...สองวันก็แล้ว..สามวันก็แล้ว...บอกเห็นด้วยทุกวัน แต่ไม่สลายชุมนุม ตรงกันข้าม กลับระดมคนทางอีสานเข้ามาเป็น "ไข่ขาว" ให้กับพวกตัวเองเพิ่มขึ้นอีก

และเนื้อในคือ "กองกำลังก่อการร้าย" ก็หาญเหิมเหยียบหัว ศอฉ.ในนาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง ยิงเอ็ม ๗๙ และกราดเอ็ม ๑๖ ใส่ตำรวจตายไปอีก ๒ เจ็บต่างหาก เมื่อคืนวันที่ ๗ พ.ค.กลางเมือง

ฝ่ายเปลือกออกมาเรียงแถวทำตาบ้องแบ๊วปฏิเสธ พวกผม..เปล่า แดงเทียมมันทำ!?

ถ้าบริสุทธิ์ใจ และจริงใจต่อแผนนำความสงบคืนบ้านเมือง จิตสำนึกในความเป็นคนของพวกแกนนำมันต้องบอกกับตัวเองแล้วว่า

"พวกเราเป็นเหตุ เพราะยึดราชประสงค์เป็นหน้าตักไว้เกไพ่กับรัฐบาลและ ศอฉ. การใช้อาวุธสงครามฆ่าตำรวจ-ฆ่าประชาชนอันเป็นผลจากเหตุ...จึงเกิดขึ้น"

ถ้ามีสำนึกบริสุทธิ์อย่างนี้ จาก ๗-๘-๙ พฤษภา แกนนำกบฏมันต้องสลายการชุมนุมแทนการขนคนเข้ามาอีก จริงมั้ย?

จาก ๓-๙ พ.ค. อยู่ในวาระมิ่งมงคล ทานอะไรจะมีบารมียิ่งใหญ่เท่า "อภัยทาน" เห็นจะไม่มี การที่รัฐบาล-ศอฉ.ไม่ปฏิบัติการอะไรกับพวกกบฏ นับว่าเป็นการให้โอกาสพวกโจร "กลับตัว-กลับใจคืนฟากฝั่ง" ที่หาได้ยากยิ่งอันกลุ่มกบฏที่ไหนจะพึงได้รับในโลกนี้ นอกจากที่นี่...ที่ประเทศไทย เห็นจะไม่มีแล้ว

วานนี้-อาทิตย์ที่ ๙ พฤษภา นายกฯ ประกาศเตือนแล้ว เว้าวอนแล้ว จาก ๓ พฤษภา มาก็ครบ ๗ วัน แล้ว ถ้าเช้าวันนี้-ที่ ๑๐ พฤษภา แกนนำกบฏที่ปากบอกว่า "เห็นด้วย" กับแผนปรองดอง แต่ยังคงเป็นควายจมปลักอยู่ราชประสงค์ล่ะก็

พอได้แล้ว...ท่านนายกฯ ท่านเชื่อมั่นประเทศไทยมาตลอด ๒ เดือน นับจากนี้ "ไม่ต้องพูด" แล้ว!

ถ้าพูดเป็น "แผ่นเสียงตกร่อง" เหมือนตัววิ่งหน้าจอช่อง ๕ ซ้ำซากแทนการ "ลงมือทำ" อยู่อีกล่ะก็ ผมจะบอกให้ "ประชาชนหมดความเชื่อมั่นประเทศไทย" เพราะท่านนั่นแหละ

เช่าโรงแรมจิ้งหรีดยังชั่วโมงเป็นร้อย-เป็น พัน แต่พวกแกนนำกบฏ "ยึดราชประสงค์" เป็นนิวาสสถานโดยไม่ต้องจ่ายซักบาท แค่ตวัดลิ้นถึงใบหูว่า "เห็นด้วย" ซื้อเวลา หลอกรัฐบาล-หลอก ศอฉ.อยู่ไปแต่ละวัน และท่านก็ยอมมาเรื่อยๆ

แต่ผมสังเกตว่า "ประชาสังคม" เขาไม่ทนยอมอีกแล้วนะท่าน!

ถ้าปล่อยไปอย่างนี้ ผมคิดว่าก่อนวันที่ ๑๕ พฤษภา พวก "เนื้อใน" ก็อาจบึ้มอีกตามแผน "ยืมมือประชาชนฆ่ารัฐบาล" คราวนี้ตำรวจหรือทหารจะแจ็กพอตก็จับฉลากกันเอาเองเถอะ

เพราะบึ้มแล้ว พวกแกนนำเขาก็จะบอก "แดงเทียมมันทำ" ซึ่งมันก็ตามแผนตื้นๆ "แยกกันอยู่-รวมกันตี" บ้าง "ร่วมนาย-แยกบัญชี" บ้าง ฝ่ายก่อการร้ายก็ลงมือวินาศกรรม คุกคามประชาชน ทำประเทศไทยให้เป็นแดนมิคสัญญี-เมืองอันตรายไปเรื่อยๆ ให้หนักกว่า ๓ จังหวัดใต้ และฝ่ายชุมนุมสันติ-อหิงสาก็ยึดครองพื้นที่อยู่ไปเรื่อยๆ

กัดเซาะให้ประเทศไทยหมดสภาพอำนาจปกครอง กองทัพไทยก็มีสภาพเป็น "กองทัพงูเห่า" บ้าง เป็น "ฟาร์มแตงโม" บ้าง สุดท้ายต้องให้ "อำนาจนอกชาติ" ส่งกองกำลังสากลเข้าครองประเทศ ก่อนจัดสรรแล้วสถาปนาอำนาจใหม่ นี่คือแผนล่าสุดที่คน "มอนเตเนโกร" จ้างต่างชาติเดินเกมประสาน "ล้มชาติ-ล้มระบบ"

แล้วฉวยจังหวะเข้ามาด้วยวิธี....Back Door!

ประชาชนเลี้ยงรัฐบาล เลี้ยงกองทัพมามากแล้ว ถึงเวลาที่กองทัพ-โดย ศอฉ.ควรตอบแทนบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนประเทศชาติ-ประชาชนได้แล้ว

เลิกมาตรการ "สำลีไปหานุ่น" แล้วใช้ "มาตรการหนัก" ได้แล้ว เพราะเบามาตลอดจนถึงขั้น "ฉี่เป็นเลือด" ไปทั้งประเทศแล้ว!

เท่าที่ผมฟัง "ทั้งโลก" ไม่มีใครเขาลงความเห็นว่า ไอ้พวกกบฏในเมืองไทย "ไม่สมควรจัดการให้เด็ดขาด" ซักราย มีแต่ฉงนสนเท่ห์กันทั้งโลกว่ารัฐบาล-กองทัพ

"เก็บพวกนี้ไว้ทำพ่ออะไร"?

เหตุที่ผมบอกเช่นนี้เพราะ ทุกอย่างชัดเจนในเจตนา-การกระทำ ให้เวลามาจนเกินพอดีแล้ว และสมควรแก่เวลาที่จะหยุด "ความเลวร้าย" ให้กับประเทศชาติ-ประชาชนได้แล้ว

ท่านนายกฯ ท่านก็ทราบก่อนแล้วใช่มั้ยว่า "ขึ้นมาเป็นนายกฯ แล้วจะเจออะไร?" อำนาจบริหารสูงสุดอยู่ในมือท่าน ท่านพร้อม "รับผิดชอบแต่ผู้เดียว" มั้ย ถ้าพร้อม-ผมเชื่อ สั่งเมื่อไหร่ ศอฉ.ก็พร้อมเมื่อ นั้น "เพราะเงื่อนไขสมบูรณ์โดยชอบธรรม" แล้ว จากนี้ไปถึง ๑๕ พฤษภา

ถ้าไม่จบ...ท่านก็ควรจบซะ!

http://www.thaipost.net/news/100510/21986

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น